วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

1.เอฟเอ็มดีแรม(Fast Page Mode Dynamic RAM: FPM DRAM) เป้นแรมที่พัฒนาหลังจากไดนามิกแรมธรรมดาในยุคแรกๆเอฟพีเอ็มดีแรมเป็นแรมชนิดที่เก่าที่สุดที่ยังคงมีขายอยู่ในตลาดคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันยังคงมีขายแต่น้อยมาก ทำให้เป็นแรมชนิดที่มีราคาแพง
2.อีดีโอแรม(Extended Data Output RAM : EDO RAM) เป็นแรมที่พัฒนาขึ้นหลังจาก พ.ศ 2538 การพัฒนาโดยบริษัทไมครอนในประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับเพนเทียมเอ็มเอ็มเอ็กซ์ เพนเทียมโปร ซึ่งไม่เป็นที่นิยมแล้วในปัจจุบัน



3.เอสดีแรม(Synchronous Dynamic RAM : SDRAM)หลังจาก พ.ศ .2538 การพัฒนาไมโครโพรเซสเซอร์ป็นไปอย่าต่อเนื่องแรวดเร็วทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผลิตในยุคต่อมาเพนเทียมทูร์(Pentium II)และเพนเทียนทรี(Pentium III)เป็นเครื่องที่มีความถี่สูงกว่า66เมกะเฮิรตซ์ และแนวโน้มที่จะพัฒนาต่อมาเรื่อยๆมีผลให้อีดีโอแรมทำงานได้ไม่พอ จึงมีการผลิตแรมที่เรียกว่าเอสดีแรมซึ่งเป็นแรมชนิดที่ยังใช้อยู่ในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน





4.ดีดีอาร์ เอสดีแรม (Dc\oudle Data Rate Synchrcnous Dynamic RAM: DDR SDRAM)เป็นแรมที่พัฒนามาจากเอสดีแรม นิยมอีกอย่างว่า ดีอาร์(DRDRAM)สามารถทำงานได้เร็วกว่าเอสดีแรมธรรมดา2เท่า



5.อาร์ดีแรม(Rambus Dynamic RAM : RDRAM)เป็นแรมที่ได้รับการออกแบบระบบใหม่ ให้แตกต่างจากแรมชนิดอื่นที่ได้กล่าวข้างต้น พัฒนาโดยบริษัทแรมบัส(Rmbus Inc.)ส่งข้อความผ่านทางบัสที่มีความเวสูง เป็นแรมประเภทที่มีราคาแพงและการใช้งานซับซ้อน จึงไม่เป็นที่นิยมเท่ากับเอสดีแรมและดีดีอาร์แรม..




วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Intel Celeron Processor E3300 2000 บาท
ASUS MB M4A78L-M 1900 บาท
Western Digita Caviar Blue 250
GB EIDE Hard Drives 2000 บาท
KINGSTON-1 GB DDRII-800 900 บาท
LG W1941S-PF18.5'' 3000 บาท
Case+PowerSupply 1300 บาท
ของแถม+Mouse 250 บาท+Keyboard 500 บาท
รวมราคา 11,100บาท ราคาไม่รวมของแถม

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทฤษฎีใหม่




ทฤษฎีใหม่

ความสำคัญของทฤษฎีใหม่
๑.มีการบริหารและจัดแบ่งที่ดินแปลงเล็กออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน เพื่อประโยชน์สูงสุดของเกษตกร ซึ้งไม่เคยมีใครคิดมาก่อน
๒.มีการคำนวนโดยใช้หลักวิชาการเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่จะกักเก็บให้เพียงพอต่อการเพะปลูกได้อย่างเหมาะสมตลอดปี
๓.มีการวางแผนที่สมบรูณ์แบบสำหรับเกษตรกรรายย่อย โดยมีถึง๓ขั้นตอน
ทฤษฎีใหม่ขั้นต้น
ให้แบ่งพื้นที่ออกเป็น๔ส่วน ตามอัตรา๓๐:๓๐:๓๐:๑๐
พื้นที่ส่วนที่หนึ่ง ประมาณ๓๐%ให้ขุดสระเก็บกักน้ำฝนในฤดูฝน และใช้เสริมในฤดูแล้งตลอดจนการเลี้ยงสัตว์และพืชน้ำต่างๆ
พื้นที่ส่วนที่สอง ประมาณ๓๐%ให้ปลูกข้าวในฤดูฝนใช้เป็นอาหารประจำวันสำหรับครอบครัวให้พอเพียงตลอดปีเพื่อลดการใช้จ่าย
พื้นที่ส่วนที่สาม ประมาณ๓๐%ให้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชไร่ พืชสมุนไพร ฯลฯ เพื่อใช้เป็นอาหารประจำวันหากเหลือจากการบริโภคก็นำไปจำหน่วย
พื้นที่ที่สี่๑๐% เป็นที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์ ถนนหนทาง และธรงเรือนต่างๆ
ทฤษฏีใหม่ขั้นที่สอง
๑.การผลิต (พันธ์พืช เตรียมดิน ชลประทานฯลฯ )
-เกษตรกรจะต้องร่วมมือในการผลิต โดยเริ่ม ตั้งแต่ขั้นเตรียมดิน การ หาพันธุ์พืช ปุ๋ย การจัดหาน้ำ และ อื่นๆ เพื่อ การ เพราะปลูก
๒. การตลาด (ลานตากข้าว ยุ้ง เครื่องสีข้าว การจำหน่ายผลผลิต)
-เมื่อมีผลผลิตแล้วจะต้องเตรียมการต่างๆเพื่อการขายผลผลิตให้ได้ประโยชน์สุงสุด
๓.การเป็นอยู่(กะปิ น้ำปลา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ)
-ในขณะเดียวกันเกษตรกรต้องมีความเป็นอยุ่ที่ดีพอสมควร โดยมีปัจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตเพียงพอ
๔.สวัสดิ์การ(สาธารณสูข เงินกู้)
-แต่ละชุมชนควรมีสวัสดิ์ภาพและบริการที่จำเป็นในที่ชุมชน
๕.การศึกษา(โรงเรียน ทุนการศึกษา)
ชุมชนควรมีบทบบาทในการส่งเสริมการศึกษา เช่น มีกองทุนเพื่อการศึกษาเล่าเรียนให้แก่เยาวชนของชุมชนเอง
๖ สังคมและศาสนา
-ชุมชนควรเป็นที่รวมในการพัฒนาสังคมและจิตใจ โดยมีศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยว

ทฤษฎีใหม่ขั้นที่สาม
-เกษตรกรขายข้าวได้ราคาสูง(ไม่ถูกกดราคา)
-ธนาคารหรือบริษัทเอกชนสามารถซื้อข้าวบริโภคในราคาต่ำ(ซื้อข้าวเปลือกตรงจากเกษตรกรและมาสีเอง)
-เกษตกรซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคได้ในราคาต่ำ เพราะรวมกันซื้อเป็นจำนวนมาก
-ธนาคารหรือบริษัทเอกชน จะสามารถกระจายบุคลากรเพื่อไปดำเนินการในกิจกรรมต่างๆให้เกิดผลดียิ่งขึ้น